รูเล็ตยุโรป และ รูเล็ตอเมริกัน เป็นสองรูปแบบที่ได้รับความนิยมในคาสิโนทั่วโลก และทั้งสองเกมนี้มีความคล้ายคลึงกันในแง่ของกฎการเล่นและวิธีการเดิมพัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างที่สำคัญซึ่งอาจมีผลต่อประสบการณ์และโอกาสในการชนะของผู้เล่น ดังนั้น ในบทความนี้จะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่าง รูเล็ตยุโรป และ รูเล็ตอเมริกัน ในหลายๆ ด้าน
1. จำนวนช่องในวงล้อ (Wheel Layout)
ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างรูเล็ตยุโรปและ รูเล็ตอเมริกัน คือจำนวนช่องในวงล้อ รูเล็ตยุโรปมีช่องทั้งหมด 37 ช่อง ซึ่งรวมทั้งหมายเลข 0 ถึง 36 ในขณะที่รูเล็ตอเมริกันมีช่องทั้งหมด 38 ช่อง ซึ่งจะประกอบไปด้วยหมายเลข 0, 00 และหมายเลข 1 ถึง 36
ในรูเล็ตยุโรป หมายเลข 0 เป็นหมายเลขเดียวที่มีอยู่ในวงล้อ ซึ่งหมายถึงเจ้ามือมีความได้เปรียบที่ต่ำกว่า ในขณะที่รูเล็ตอเมริกันมีหมายเลข 00 เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะเพิ่มความได้เปรียบของเจ้ามือให้สูงขึ้น
2. อัตราความได้เปรียบของเจ้ามือ (House Edge)
เนื่องจากรูเล็ตอเมริกันมีช่อง 38 ช่อง ในขณะที่รูเล็ตยุโรปมีเพียง 37 ช่อง อัตราความได้เปรียบของเจ้ามือในรูเล็ตอเมริกันจึงสูงกว่า การเพิ่มช่อง 00 ทำให้ความได้เปรียบของเจ้ามือในรูเล็ตอเมริกันอยู่ที่ประมาณ 5.26% ในขณะที่รูเล็ตยุโรปมีความได้เปรียบของเจ้ามือที่ต่ำกว่าอยู่ที่ 2.7%
ผลที่ตามมาคือในรูเล็ตยุโรปผู้เล่นมีโอกาสชนะมากกว่ารูเล็ตอเมริกัน เนื่องจากความได้เปรียบของเจ้ามือที่ต่ำกว่า ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญสำหรับผู้เล่นที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการชนะ
3. วิธีการเล่นและการเดิมพัน
ทั้งรูเล็ตยุโรปและ รูเล็ต อเมริกันมีกฎการเล่นและวิธีการเดิมพันที่คล้ายกัน โดยผู้เล่นจะวางเดิมพันบนหมายเลขหรือกลุ่มของหมายเลขในตารางเดิมพัน จากนั้นเจ้ามือจะหมุนวงล้อและปล่อยลูกบอลให้หมุนไปในทิศทางตรงข้าม เมื่อวงล้อหยุด ลูกบอลจะตกลงในช่องหมายเลขใดหมายเลขหนึ่ง
การเดิมพันในทั้งสองเกมนี้มีหลายประเภท เช่น การเดิมพันเลขเดี่ยว (Straight Up), การเดิมพันแบบแถว (Row Bet), การเดิมพันแบบกลุ่ม (Column Bet) หรือการเดิมพันแบบสี (Red/Black) แต่รูปแบบการเดิมพันจะไม่แตกต่างกันมากระหว่างทั้งสอง
4. การจ่ายเงิน (Payouts)
ในแง่ของการจ่ายเงิน รูเล็ตยุโรปและรูเล็ตอเมริกันมีการจ่ายเงินที่คล้ายกันในหลายๆ ประเภทการเดิมพัน เช่น การเดิมพันแบบเลขเดี่ยวที่จ่าย 35:1, การเดิมพันแบบแถวหรือคอลัมน์ที่จ่าย 2:1 และการเดิมพันแบบสีหรือคู่/คี่ที่จ่าย 1:1
อย่างไรก็ตาม การมีช่อง 00 ในรูเล็ตอเมริกันทำให้การจ่ายเงินในบางกรณีมีความเสี่ยงสูงกว่าในรูเล็ตยุโรป เนื่องจากช่อง 00 เพิ่มโอกาสที่เจ้ามือจะชนะได้มากขึ้น
5. บรรยากาศการเล่น (Atmosphere)
ทั้งรูเล็ตยุโรปและรูเล็ตอเมริกันมักจะมีบรรยากาศที่คล้ายคลึงกันในคาสิโนสด โดยผู้เล่นสามารถสัมผัสประสบการณ์การหมุนวงล้อและการวางเดิมพันได้เหมือนกัน แต่บางคนอาจรู้สึกว่ารูเล็ตยุโรปมีความเป็นทางการและมีความละเอียดในการจัดการเกมมากกว่า เนื่องจากมันมักจะถูกใช้ในคาสิโนที่มีสไตล์แบบคลาสสิก ในขณะที่รูเล็ตอเมริกันอาจจะให้บรรยากาศที่คึกคักและเปิดกว้างมากกว่า เนื่องจากความนิยมในคาสิโนใหญ่ๆ ในสหรัฐอเมริกา
6. ข้อได้เปรียบของผู้เล่น
จากความได้เปรียบของเจ้ามือที่ต่ำกว่าใน รูเล็ตยุโรป ผู้เล่นมีโอกาสชนะมากกว่า จึงทำให้เกมนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักพนันที่ต้องการโอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้น ในขณะที่ รูเล็ตอเมริกัน ที่มีความได้เปรียบของเจ้ามือสูงกว่าอาจจะทำให้ผู้เล่นต้องใช้กลยุทธ์การเดิมพันที่รอบคอบมากขึ้น เพื่อให้สามารถลดความได้เปรียบของเจ้ามือได้
สรุป : โดยสรุปแล้ว รูเล็ต ยุโรป และ รูเล็ตอเมริกัน แตกต่างกันในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของจำนวนช่องในวงล้อและอัตราความได้เปรียบของเจ้ามือ รูเล็ตยุโรปมีโอกาสที่ดีกว่าในการทำกำไรเนื่องจากความได้เปรียบของเจ้ามือที่ต่ำกว่า ในขณะที่รูเล็ตอเมริกันมีช่อง 00 ที่เพิ่มความได้เปรียบให้กับเจ้ามือ แต่ทั้งสองเกมยังคงมีเสน่ห์และความสนุกสนานที่ไม่ต่างกัน ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นตามความชอบและกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตัวเองได้
ถ้าคุณลูกค้ามีความสนใจเกี่ยวกับการเล่นเกมคาสิโนออนไลน์ แอดไลน์ได้นะคะ เรามีแอดมินบริการ 24 ชั่วโมง
สนใจ แอดไลน์ Dragon285
By: Galaxykh789